2. เรารู้จักเคลือบแก้วกันแล้ว
มาดูประโยชน์ของการทำเคลือบแก้วรถยนต์กันครับ
2.1 เพิ่มความเงางามของสีรถยนต์ เปรียบเสมือนสีรถมีชั้นฟิล์มกระจกใสเคลือบทับอีกชั้นทำให้แลดูมีความฉ่ำลึกและเงางามขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
2.2 ชั้นฟิล์มเคลือบแก้ว
ทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันความร้อนและรังสี UV
จากแสงแดด ซึ่งเป็นตัวการทำร้ายสีของรถยนต์ให้ซีดหมองและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
การใช้น้ำยาเคลือบแก้วคุณภาพสูง จะรักษาสีรถให้มีความเงางามและมีความคงทนมากยิ่งขึ้น
2.3 ชั้นฟิล์มของเคลือบแก้ว
มีความแข็งสูงกว่าฟิล์มของชั้นเคลียร์รถยนต์ทั่วไป จึงป้องกันการเกิดรอยขนแมว
รอยขูดขีดได้ดีกว่าสีรถเดิมๆ เรทค่าของความแข็งจะมีตั้งแต่ 1H จนถึง 9H (จากการทดสอบมาตรฐานสากล)
ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน ค่า H ต่ำมีความแข็งน้อยแต่ความเงาจะสูงมาก ถ้าเคลือบแก้วค่า H มากเท่าไหร่ความแข็งจะยิ่งสูงมาก
การปกป้องดีแต่ความเงาก็จะลดลงเป็นค่าผกผันกัน
2.4 เคลือบแก้วช่วยปกป้องสีรถที่อาจเกิดจากคราบสารเคมี
น้ำมันเชื้อเพลิง มูลนก ยางไม้ ยางมะตอย และลดการกัดกร่อนจากมลภาวะต่างๆ
เช่นไอทะเล ฝนกรด ทำให้สีตัวถังรถยนต์ยังคงสภาพฟิล์มที่มีความใสและเงางามอยู่อย่างเสมอ
2.5 มีคุณสมบัติไล่น้ำ (ไฮโดรโฟบิค : Hydrophobic) ไม่เกิดคราบน้ำเมื่อฝนตก
และฟิล์มสีจะทำความสะอาดตัวเองคราบสกปรกต่าง ๆ
ที่เกาะติดอยู่บนตัวถังถูกชำระด้วยน้ำฝนอย่างง่ายดาย และคุณสมบัตินี้จะอยู่ตลอดอายุของฟิล์มเคลือบแก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น