1 “เคลือบแก้ว” คืออะไร
ปัจจุบันเราคงเคยได้ยินคนพูดถึงการเคลือบแก้วรถยนต์กันบ่อยๆ
ประมาณว่าเคลือบแก้วรถยนต์ไปแล้ว สีรถจะเงาขึ้น เคลือบแล้วสีรถไม่ซีดหมอง
รถสีขาวเคลือบไปนานๆสีรถไม่เหลือง เคลือบแก้วมันแข็งมาก แข็งถึง 9H
อะไรแบบนี้ แต่จะมีผู้บริโภคสักกี่คนที่จะรู้จริงๆว่า “เคลือบแก้ว” คืออะไร
การเคลือบแก้ว คือ การนำน้ำยาเคลือบแก้ว (Glass Coating) ที่มีสภาพเป็นของเหลว มาเคลือบลงบนชั้นฟิล์ม
(Top Coat) ของสีรถยนต์
จากนั้นน้ำยาเปลี่ยนสภาพเป็นชั้นฟิล์มที่มีความแข็ง และยืดหยุ่นตัวได้ดีเคลือบทับบนผิวสีรถยนต์อีกชั้นนึง
นอกจากสีรถจะเงางามขึ้นฟิล์มเคลือบแก้วยังมีคุณสมบัติการปกป้องสีรถยนต์ได้ดี ความหนาของชั้นเคลือบจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของซิลิก้า
(Silicon dioxide : SiO2) ที่เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำยาเคลือบแก้ว
(แท้.!!) ความหนาเมื่อฟิล์มแห้งจะมีตั้งแต่ 0.5 ไมครอนจนถึง 3 ไมครอนต่อการเคลือบ 1 เลเยอร์ ส่วนที่เคลมกันว่าหนาถึงหลาย
10ไมครอนจนถึงเป็น 100 ไมครอนไม่น่าจะมีนะครับ จากข้อมูลผู้ผลิตสี OEM หลายรายชั้นเคลียร์ของ Top Coat ของงาน OEM มีความหนาเพียง 10-20 ไมครอนเองครับ
เคลือบแก้ว(แท้) ที่จำหน่ายในตลาดมีหลากหลายระดับคุณภาพและราคาขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารซิลิก้า
ส่วนน้ำยาเคลือบที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิก้าจะเป็นน้ำยาที่มีองค์ประกอบจำพวกสารโพลีเมอร์จะมีราคาราคาถูกลงมาและการปกป้องสีรถก็ลดหลั่นการตามราคาขาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น